เที่ยว เที่ยว รอเวลาเที่ยวยิ้มแก้มฉีก อยากก้าวข้ามหาที่พักแบบไม่ธรรมดา มอบประสบการณ์ใหม่ให้รางวัลแก่ตัวเองกับ โรงแรมสุดเจ๋ง หลากหลายสไตล์
1
อุต๊ะ ว้าว ว้าว โรงแรมต้นไม้แบบไม่ธรรมดาๆ หลากหลายสไตล์ให้เลือกพัก ด้วยจินตนาการอันโลดแล่น พลางตัว ล่องหน กลมกลืนไปกับธรรมชาติ ภาพบรรยากาศรอบต้นไม้ ท้องฟ้า หากช่วงหิมะตกก็จะโปรยปรายด้วยหิมะขาวโพลน สามารถมองเห็นผ่านหน้าต่าง 360 องศา แบบพาโนรามา และยังมีการออกแบบที่โดดเด่น ท่ามกลางธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์ รับประกันว่าฟิน ฟิน อย่างแน่นอน คุณจะได้เอนกายพักผ่อน ณ ที่ออกแบบมาอย่างมีเอกลักษณ์สูงเหนือผืนป่า นอนฟังเสียงเรไรในพงไพร เพลงขับกล่อมจากฝูงนก หรือแกว่งไกวไปมาบนต้นไม้ เสียงใบไม้พัดไหวดั่งเสียงดนตรี อะไรจะดีต่อใจขนาดนั้น หากคุณรักสายธรรมชาติ คุณคงไม่ปฎิเสธ 🌳 🎇
2
หนาวให้สุด สุด กับโรงแรมน้ำแข็ง เป็นโรงแรมน้ำแข็งรุ่นแรกๆ ส่วนความหนาวเย็นไม่ต้องพูดถึงเพราะห่างจากวงกลมอาร์กติก (Arctic Circle) เพียง 200 กิโลเมตรเท่านั้น เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 1989 ด้วยคอนเซปต์ที่พักซึ่งทำจากน้ำแข็งและเกล็ดหิมะแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เข้าพักได้เฉพาะช่วงฤดูหนาวถึงฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น เพราะฤดูอื่นน้ำแข็งจะละลายกลายเป็นน้ำเองตามสภาพ ที่นี้จะถูกสร้างขึ้นเป็นประจำทุกปี ในช่วงหน้าหนาว โดยจะมีเหล่าศิลปินมาพบปะเพื่อสร้างสรรค์ผลงานผ่านการแกะสลักน้ำแข็งที่งดงามอย่างตระการตาจากช่างแกะสลักน้ำแข็งชั้นนำของโลกอย่างตระการตา ประกอบเป็นห้องพักให้แอบอิง พร้อมหาความสุขกับประติมากรรมน้ำแข็งอันน่าทึ่งกันหรือยัง !? ☃️
3
โรงแรมที่สร้างด้วยเกลือ ทำเลที่ตั้งอันน่าทึ่งอยู่ใกล้กับทะเลสาบเกลือ ทุกอย่างทำมาจากเกลือจริงๆ (ไม่ว่าจะเป็นเตียง โซฟา โต๊ะ เสา หรือแม้แต่เพดานห้อง) มีหน้าต่างส่วนตัว ส่วนตัวมองสู่ทะเลทราย ยามพระอาทิตย์ตกและท้องฟ้ายามค่ำคืนนั้น วิวช่างสวยเสียยิ่งกระไร อ่างน้ำร้อนเป็นเหมือนสระว่ายน้ำสี่เหลี่ยม อ่างน้ำร้อนไฮบริด…การผ่อนคลายที่สระว่ายน้ำอุ่นที่มองเห็น "Salar de Uyuni" จากหน้าต่าง สุดล้ำค่าเพียงใดและสามารถว่ายน้ำรอบๆได้หากต้องการเช่นนั้น หรือหากต้องการสำรวจภูมิทัศน์อันไร้ที่ติของ Salar de Uyuni ทะเลสาบสีสันสดใสที่เต็มไปด้วยนกฟลามิงโกก็ย่อมทำได้ ลิ้มรสอาหารพื้นเมืองที่น่าประทับใจ ที่นี้มีเอกลักษณ์แปลกตาควรค่าแก่การจดจำ ยากแก่การลืมเลือน 🦩☀️
4
ด้วยห้องพักที่ให้ความรู้สึกเหมือนคุณอยู่ในยุค 80 ห้องพักทุกห้องมีระเบียงพร้อมวิวมุมสูง สามารถมองเห็นแนวชายฝั่งอันตระการตาของอุทยานหรือทิวทัศน์ท้องฟ้าของป่าฝนพร้อมการลั้นลาเหล่าสัตว์ป่า ไอเดียความคิดบรรเจิดอันหนึ่งคือนำเครื่องบินโบอิ้ง 727 ทำเป็นห้องพักอันน่าทึ่งอีกหนึ่งสไตล์ ซึ่งประกอบด้วยห้องพักสุดหรูที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกพร้อม ทั้งเครื่องปรับอากาศ ห้องน้ำ หรือห้องครัว ที่สำคัญมันยังตั้งอยู่ใกล้แนวป่า ให้ความรู้สึกถึงการลงจอดฉุกเฉิน ณ กลางป่า นับเป็นไอเดียเก๋ ๆ แปลกๆ ที่ดึงดูด น่าสนใจได้ไม่น้อยเลยค่ะ จุดโดดเด่นมุ่งอนุรักษ์ธรรมชาติ การอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์และสัตว์ป่าโดยไม่ล่วงล้ำทำลายกัน🐒🦜 ไม่ว่าฝูงทหารลิงที่ให้การต้อนรับปรากฎโฉบไปมา ดั่งคำขวัญ 🐒 "ยังคงมีลิงมากกว่าคน" ท่านใดที่อยากพักแบบเขาถึงธรรมชาติๆ ต้องมาที่นี่ Hotel Costa Verde, Costa Rica
5
⛺ รีสอร์ทเรือนกระจก (GLASS IGLOO) ที่ตั้งอยู่ในส่วนของ Finnish Lapland ประเทศฟินแลนด์ โดยเลียนแบบมาจากบ้านพักของชาวเอสกิโม ปกติทำจากหิมะทั้งหมด ต่อมามีการมาปรับเปลี่ยนเป็น "น้ำแข็ง" แทน จุดเด่น คือ โดมน้ำแข็งทำจากน้ำแข็งทั้งหมด ที่นี้เองเป็นที่พักของใครหลายๆคน วาดฝันเอาไว้ เพื่อเห็นแสงเหนือวาดลีลา เต้นระบำอย่างเริงร่า บนท้องฟ้าในยามค่ำคืน ผ่านหลังคากระจกใสสวยงามของบ้านพัก เมื่อมีหิมะสีขาวปกคลุมระยิบระยับ สุดยอดไปเลย กับบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยทุ่งน้ำแข็งกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา นอนหลับเอกเขนกท่ามกลางธรรมชาติ บนเตียงนุ่มอันแสนจะอบอุ่น สามารถชมปรากฎการณ์ บนท้องฟ้าได้ตลอดวัน แอบฟิน เฟ้อ จริงๆ อีกทั้งยังมีกิจกรรมหลากหลายให้ร่วม เช่น ท่องเที่ยวซาฟารีฮัสกี้ ซาฟารีเรนเดียร์ การขับมอเตอร์ไซค์ตะลุยหิมะ ด้วยเอกลักษณ์พิเศษที่ชวนดึงดูด หลงใหล และประทับใจสุดๆ ⛄ ⛄ ⛄ เปิดประสบการณ์นอนแบบชาวเอสกิโม จองเลย
6
The Manta Resort, Tanzania Resort 🏝️
⛱️ “เมื่อทะเลยังเป็น สีครามดูคลื่นไล่ตามซึ้งใจ” ยามเมื่อเที่ยวทะเล แม้มิใช่นักร้องก็อยากฮัมเพลง เบา เบา อยู่ในใจ ไม่ต้องกลัวใครได้ยินเสียงเรา แต่วันนี้จะนำท่านสัมผัสโรงแรมใต้ทะเล แห่งแรกในแอฟริกา ในหมู่เกาะแซนซิบาร์ ท้องทะเลยังมีอะไรให้ค้นหาอีกมากมายและความมหัศจรรย์ที่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ กับ “ห้องใต้ทะเล” ที่พักตั้งลึกไปในมหาสมุทรอินเดียถึง 4 เมตร โรงแรมลอยน้ำนั้นมีที่พักมีทั้งหมด 3 ชั้น โดยไฮไลท์ของโรงแรมลอยน้ำคือห้องนอนถูกออกแบบให้เป็นห้องสี่เหลี่ยมและล้อมด้วยกระจกใสขนาดใหญ่ 8 บานและเป็นจุดที่อยู่ใต้น้ำ ทำให้สามารถชมความงามของใต้ท้องทะเลได้อย่างทั่วทิศ เหล่าเพื่อนฝูงสัตว์ทะเลแวะมาเยี่ยมเยียนไม่ขาดสาย รอบตัวโรงแรมมีการติดไฟสปอตไลท์ไว้ด้านนอกหน้าต่าง ซึ่งจะทำให้เป็นจุดสนใจของ ฝูงปลา ฝูงหมึกทะเล ทากทะเล และสัตว์น้ำหายากต่างๆ พร้อมเสียงกรี๊ด กรี๊ดดของเราเอง ด้วยความสุขอย่างเหลือล้น ชั้นต่อมาจะเป็นห้องนั่งเล่นกับระเบียง ทำให้เพลิดเพลินกับลมทะเลและว่ายน้ำได้ตามต้องการ ส่วนสุดท้ายชั้นบนสุดซึ่งเป็นหลังคาสามารถขึ้นไปเพื่อนอนอาบแดดบนนั้นได้ จิบอะไรเย็นๆ ปลดปล่อยอารมณ์ มองท้องฟ้า น้ำทะเลสีฟ้าใส คลื่นและลมทะเล พลิ้วมา ฉันจะจดจำเธอตลอดไป 🏖️ 🏖️ 🐠 🐠 🐠 🦑
7
แช่น้ำแร่ ในลากูนสีฟ้า พักที่ The Retreat at Blue Lagoon Iceland เป็นอีกตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเมื่อมาเยือน Grindavik พร้อมมอบสิ่งมหัศจรรย์ของโลกโดยธรรมชาติดั่งแดนสวรรค์แห่งนี้ เน้นความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว ผสมลงตัวทั้งความคุ้มค่าและความสะดวกสบายพร้อมทั้งบรรยากาศโรแมนติก การออกแบบมุ่งเน้นการแสดงความเคารพและกลมกลืนต่อสภาพแวดล้อมโดยรอบ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอันหลากหลายได้รับเลือกสรรเข้ามาเป็นองค์ประกอบ ตกแต่งเพื่อการพักผ่อนอย่างเต็มรูปแบบและความเป็นอมตะที่ล้อมรอบด้วยน้ําบำบัดรักษาของ Blue Lagoon อีกทั้งยังประกอบด้วยเฟอร์นิเจอร์และผนังกระจกที่หรูหราในแบบพาโนราม่า สามารถมองขอบฟ้าได้ชัดเจน ด้วยวิวที่เหนือฝันตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ทักทายดวงตาคุณ พร้อมไหมเพื่อก้าวไปหารากฐานของประสบการณ์ของเปลี่ยนแปลง ติดต่อสอบถามที่พักในไอซ์แลนด์กับเรา
8
PANORAMA GLASS LODGE
กระท่อมเล็กๆ นอนฟินดูแสงเหนือ บนเตียงแสนจะอบอุ่น ฟิน ฟิน กันไปเลย ที่พักได้รับแรงบันดาลใจมาจากบ้านสไตล์สแกนดิเนเวีย สไตล์ไวกิ้ง⠀ถึงจะเล็กแต่ก็เล็กพริกขี้หนู พกความฝันได้เห็นแสงเหนือเป็นสิ่งที่คาดหวังของผู้มาเยือน ฝันที่ใคร ใคร อยากให้เป็นจริง ทิวทัศน์ที่น่าทึ่งของภูมิประเทศไอซ์แลนด์ผ่านหน้าต่างกระจกบานใหญ่ที่ล้อมรอบเตียง สามารถนั่งเล่น นอนเล่นเอกเขนก มองดูดาวด้านบนและท้องฟ้ายามค่ำคืนรอบตัวคุณ โดยหุ้มด้วยพื้นที่นอนในกระจก สามารถชมธรรมชาติทั้งกลางวันและกลางคืนโดยไม่มีสิ่งกีดขวางแบบพาโนรามา และยังเพลิดเพลินกับการอาบน้ําด้วยอ่างน้ำร้อนส่วนตัวจริงท่ามกลางแสงพระอาทิตย์ตก คุณเหมือนโดนเวทมนตร์ยามแช่ในอ่างน้ำร้อน เป็นการปลดปล่อยอารมณ์ ความตึงเครียดในชีวิตประจำวันของเรา 🌠
9
ใครจะรู้บ้างไหมว่าที่นี้เคยเป็นสังเวียนสู้วัวกระทิงและได้เคยจัดงานสู้วัวกระทิงครั้งยิ่งใหญ่ที่มีนักสู้วัวกระทิงที่ดีที่สุดในศตวรรษมาแสดงฝีไม้ลายมือ กวัดแกว่ง ผืนผ้า ล่อหลอกกระทิงให้อยู่หมัดต่อมาได้ถูกดัดแปลงให้เป็นที่พักหรูหรามีเอกลักษณ์โดยสองพี่น้องชาวเม็กซิกัน Ricardo และ Roberto Elias Pessah เปิดให้บริการในปี 1989 โดยยังคงรักษาลักษณะและความสวยงามของโครงสร้างที่มีมาแต่ดั้งเดิมตลอดทั้งผนัง สนามกีฬาที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ทำหน้าที่เป็นลานตรงกลางที่งดงามโดยมีหินกรวดและน้ำพุซ้อนทับพื้นกีบเท้าที่วัวเคยวิ่ง ล้อมรอบวงแหวนเฟอร์นิเจอร์แบบโบราณยังคงอนุรักษ์ไว้อยู่ ยังคงได้กลิ่นอายของการต่อสู้ของ Matador กับ กระทิง จองเลย