ไขที่มาของชื่อ “เมืองแปดริ้ว” “ฉะเชิงเทรา”
top of page

ไขที่มาของชื่อ “เมืองแปดริ้ว” “ฉะเชิงเทรา”

Updated: Nov 14, 2021

หากเอ่ยถึง เมืองแปดริ้ว” สิ่งแรกที่คนจะนึกถึงคงหนีไม่พ้นเรื่องราวเกี่ยวกับจังหวัดฉะเชิงเทราอย่างแน่นอน หรือไม่ก็ต้องเป็น วัดหลวงพ่อโสธร ที่มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ลอยน้ำมา มีผู้คนศรัทธา แวะเวียนมากราบไหว้ขอพรไม่ขาดสายในทุกวัน แล้วจริง ๆ เราเคยสงสัยกันไหมครับว่าที่จริงแล้ว เมืองแปดริ้ว นี่ตั้งอยู่ส่วนไหนของฉะเชิงเทรา และ แปดริ้วจะเกี่ยวข้องอย่างไรกับแม่น้ำบางปะกง แม่น้ำสายหลักของเมืองนี้บ้าง ทีม #GetawayHolidays จะพาเพื่อนๆมาดูกันครับ


ทำไมถึงเรียกว่า เมือง "แปดริ้ว" ?

แม่น้ำบางปะกง

“แม่น้ำบางปะกง” แม่น้ำสายสำคัญมีความยาวมากที่สุดของภาคตะวันออก ความยาวตลอดทั้งเส้นกว่า 231 กิโลเมตร แม่น้ำสายนี้มีแหล่งต้นน้ำมาจากเทือกเขาสันกำแพงและเทือกเขาจันทบุรีกลายมาเป็น “แม่น้ำปราจีนบุรี” ไหลลงมาจากปราจีนบุรีลงมา ก่อนที่จะออกสู่ทะเลอ่าวไทย บริเวณตำบลท่าข้าม อำเภอบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา มี แม่น้ำบางปะกงเป็นจุดเริ่มต้นอะไรหลายๆอย่างใน ฉะเชิงเทรา รวมถึงที่มาของคำว่า “แปดริ้ว” ด้วยเช่นกัน


โดยในสมัยก่อน 8 ริ้ว คือ ภาษาพูดที่คนในยุคนั้นใช้เรียก ดินแดนลุ่มน้ำบางปะกง ก่อนที่จะกลายมาเป็น บริเวณอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา อย่างในทุกวันนี้ ซึ่งพื้นที่ลุ่มน้ำนี้เปรียบได้กับ อู่ข้าว อู่น้ำ ที่สำคัญของจังหวัด มีทรัพยากรธรรมชาติ อันอุดมสมบูรณ์ ตามแม่น้ำลำคลอง ชาวบ้านและชาวประมงต่างออกมาจับสัตว์น้ำต่างๆกันอย่างมากมาย โดยเฉพาะปลาช่อน ที่พบมากบริเวณนี้ โดยมีลักษณะที่แตกต่างจากที่อื่นคือ ตัวใหญ่ อ้วนถ้วนกว่าปกติ จนสามารถแร่เนื้อเปล่าๆ ออกมาได้มากถึง 8 ริ้ว ทั้งที่ปลาไซส์ปกติจะแร่ได้เพียงแค่ 4 – 5 ริ้วเท่านั้น สัตว์น้ำเหล่านี้ที่จับได้บางส่วนจะถูกนำมาปรุงอาหารกินกันในครอบครัว และแบ่งส่วนก็จะมาตากแดดขาย หรือ แลกเปลี่ยนระหว่างกันพอเป็นที่รู้จักมากขึ้น คนจึงเรียก 8 ริ้วอย่างย่อๆ ว่าหมายถึง ที่ลุ่มน้ำบางปะกง ที่มีความอุดมสมบูรณ์ ก่อนที่ภายหลัง ภาครัฐประกาศให้ พื้นที่แถบนี้ ใช้ชื่อว่า “ฉะเชิงเทรา” แทนนั่นเองครับ


"ฉะเชิงเทรา" ชื่อนี้มาจากที่ใด ?

ไขที่มาของชื่อ  “เมืองแปดริ้ว”  “ฉะเชิงเทรา”

นอกจากจะเป็นที่มาของ เมืองแปดริ้วแล้ว แม่น้ำบางปะกงยังมีส่วนเกี่ยวกับชื่อ “จังหวัดฉะเชิงเทรา” อีกด้วย หนึ่งในกระแสที่พูดถึงความเป็นไปได้ว่ามาจากไหนนั่นก็คือ หลังจากมีแม่น้ำสายน้ำนี้เกิดขึ้น ผู้คนในยุคนั้นเริ่มอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานที่ อยู่ริมน้ำกันมากขึ้น หนาแน่นจนเป็นชุมชนและเมืองตามลำดับ ในช่วงแรกยังไม่มีชื่อเรียกบริเวณนี้ ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมา หรือตัวชาวบ้านเอง จึงนำลักษณะของแม่น้ำบางปะกง ที่มีลำตัวกว้างและลึกมาเรียกแทนครับ ด้วยชื่อว่า “คลองใหญ่” พร้อม ๆ กับเป็นช่วงที่ได้รับอิทธิพลขอมที่แผ่เข้ามาพอดิบพอดี ซึ่งเขามีคำเรียกแม่น้ำบางปะกงกันว่า “สตรึงเตรง” มีความหมายว่า คลองลึก ก่อนที่คำนี้จะค่อยๆ เพี้ยนมาเป็น “ฉทึงเทรา” ภายหลังนักประวัติศาสตร์พบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นสำคัญที่ระบุถึง เมืองฉะเชิงเทราว่า เป็นหัวเมืองชั้นใน ตั้งแต่สมัยอยุธยา ต่อเนื่องมา สมัย พระเจ้าตากสินแล้ว เนื่องจากมีที่ตั้งที่ดี ในการป้องกันการรุกรานของข้าศึกที่แล่นมาตามลำน้ำ จึงตั้งเมืองตั้งป้อม ในการป้องกันกรุงเทพได้ ก่อนที่ในยุคสมัยในยุคสมัยรัชกาลที่ 3 – 5 ที่พบเห็นชาวจีนนั่งเรือเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งมีจำนวนมากที่เลือกที่จะตั้งรกรากอยู่ที่ฉะเชิงเทรากันเป็นจำนวนมาก สร้างความคึกคักและความเจริญเป็นลำดับ เมื่อมีการกระจายอำนาจจากภูมิภาคสู่ท้องถิ่นเกิดขึ้น ฉะเชิงเทราจึงยกสถานะตัวเองเป็น “จังหวัดฉะเชิงเทรา” เช่นทุกวันนี้นั่นเองครับ


หากท่านใดที่อยากจะเที่ยวฉะเชิงเทราให้ครบ วันเดียวคงต้องบอกว่าไม่ครบ ระยะเวลาเที่ยวแบบ 2 วัน 1 คืน ดูจะเป็นเหมาะสมกำลังดี ตอบโจทย์เที่ยวแบบจบแน่นอนครับ เช่น ช่วงกลางวัน เราก็ไปตะลอนกราบขอพรพระ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งที่วัดหลวงพ่อโสธร และ อุทยานพระพิฆเนศ ตกบ่ายก็แวะจิบกาแฟ แกล้มกับขนมเปี๊ยะที่ร้าน อุ้ยแจม (Oui Jaime) ร้านอาหารแบบเดิม แต่ร้านสุดชิค และตกเย็นแวะร้านอาหารบรรยากาศดีๆ ชมวิวแม่น้ำบางปะกง พร้อมรับประทานอาหารขึ้นชื่อ เช่น เมนูปลาต่างๆ และ อาหารสดๆ ที่ตกมาจากแม่น้ำบางปะกง ก่อนที่จะเดินทางพักผ่อนสบายๆ กับโรงแรมเล็กๆ ในเมือง หรือ ริมฝั่งน้ำ ชิลล์ไปครับ


สำหรับท่าน ที่มีแผนเที่ยว 2 วัน 1 คืน หรือ มีเวลามากพอที่จะเวลาในการท่องเที่ยวจังหวัดฉะเชิงเทรา มากกว่า 1 วัน Getaway Holidays ก็อยากจะแนะนำครับ นอกจากการขับรถเที่ยวรอบจังหวัดฉะเชิงเทราแล้ว การเลือกรายการล่องเรือก็น่าสนใจไม่น้อย ปัจจุบันไม่เพียงแค่การเป็นศูนย์กลางทางด้านการสัญจรไปมาแล้ว ทุกๆสถานที่ในฉะเชิงเทราล้วนเกี่ยวข้องกับแม่น้ำสายนี้ทั้งนั้น คิดเป็นระยะเวลาก็นานหลายร้อยปีแล้ว จากรุ่นสู่รุ่น รวมถึงที่นี่ยังเป็นลำน้ำที่ถูกพบพระพุทธโสธรพระพุทธรูปลอยน้ำมาเข้ามา ก่อนที่จะหยุด ณ บริเวณหน้าวัดไม่เคลื่อนไปไหนต่อ และกลายมาเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่ได้รับความนิยมจากพุทธสานิกชน มากราบไหว้สักการะ อย่างทุกวันนี้

ไขที่มาของชื่อ  “เมืองแปดริ้ว”  “ฉะเชิงเทรา”

ถ้ามีเวลาว่าง สักวันสองวัน ลองหาโอกาสมาพักผ่อน ใช้ชีวิตชิลล์ ชิลล์ พักสบาย ณ โรงแรม หรือ โฮมสเตย์ของชาวบ้านที่เปิดบริการริมสองฝั่งแม่น้ำบางปะกงหลากหลายเจ้า คุณก็จะมีวันหยุดพักผ่อนที่แสนสบายใกล้กรุงที่ดีที่สุดทีเดียวครับ หรือ หากท่านไม่อยากเดินทางไปเอง ต้องขับรถเหนื่อยกับการจับจ้อง สนใจจะเที่ยวแบบ วิถีสโลว์ไลฟ์ นั่งรถไฟย้อนเวลาหาอดีต และมีคนเล่าเรื่องของเมืองแปดริ้วให้ท่านฟังเพลินๆ แถมได้ความรู้และสนุก ลองเลือกรายการของเรา สักรายการ รับรองว่า คุณจะกลับมาพร้อมรอยยิ้ม ความสำราญใจ กับความสุขจากเมืองแปดริ้ว ฉะเชิงเทราแน่นอน


👉 ดูรายการนั่งรถไฟเที่ยว "ฉะเชิงเทรา" กับ Getaway Holidays ได้ ที่นี่

เตรียมพบกับรายการนั่วรถไฟเที่ยวฉะเชิงเทรา 1 วัน ในเร็วๆนี้

อย่าลืม "กดแอดไลน์" เพื่อรับโปรโมชั่นรายการพิเศษก่อนใคร!



ดูโปรแกรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจ จากลิงค์ด้านล่างได้เลยครับ 👇



bottom of page